ปริศนาเลข 7 กลุ่มดาวฤกษ์ 7 กลุ่ม
1.กลุ่มดาวนายพราน
กลุ่มดาวนายพรานเป็นกลุ่มดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังสะท้านเอกภพอีกกลุ่มดาวหนึ่งในฤดูหนาวเพราะสามารถมองเห็นได้ยาวนาน
และสังเกตหาง่าย สำหรับคนไทยเรียกกลุ่มดาวนายพรานว่า ดาวเต่า ข้างในดาวเต่ามี
ดาวไถ อีกที เนื่องจากกลุ่มดาวนายพราน หรือ Orion ประกอบด้วยดาวฤกษ์จำนวนทั้งหมด
8 ดวง โดยมีดวงสำคัญ 4 ดวง ตั้งเรียงกันเป็นขาเต่าหน้าหลัง
กลุ่มดาวนายพรานมีดาว 2 ดวงที่เป็นดาวฤกษ์สว่างมาก ก็คือดาว บีเทลจุส (Betelgeuse) อยู่ตรงส่วนของไล่ขวานายพรานเป็นดาวยักษ์แดง สีออกแดงๆส้มๆ และอีกดวงก็คือดาว ไรเจล (Rigel) ตรงเข่าซ้ายนายพราน(หรือเท้าซ้าย) ดาบนายพรานคือดวงดาวที่เรียงตัวในแนวดิ่ง ใต้ดาวสามดวงในแนวเกือบจะเป็นแนวนอนก็คือ "เข็มขัดนายพราน" นั่นเอง กลุ่มดาวนายพรานจะเริ่มโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ทางทิศตะวันออกโดยจะขึ้นแบบตะแคงข้าง ส่วนเวลาตกก็ประมาณตีห้า ทางทิศตะวันตกค่อนไปทางใต้เล็กน้อย
2.กลุ่มดาวไถ
กลุ่มดาวดาวไถ จะมองเห็นชัดในฤดูหนาวเป็นดวงดาวสามดวงเรียงกัน
ถือว่าเป็นกลุ่มดาวที่ดูได้ง่ายในฤดูหนาวจะเห็นได้ชัดกลุ่มดาวไถมีประโยชน์ในการค้นหาดาวอื่น
ๆ ซึ่งดาวไถจะอยู่ห่างจากโลกประมาณ 800 - 1400 ปีแสง และเป็นแหล่งที่มีดาวดวงใหม่เกิดขึ้นมากที่สุดที่ตรงใจกลางดาวไถมีดวงดาวอยู่ถึง
110 ดวง คนไทยมองเห็นเป็นลักษณะเหมือนคันไถจึงเรียกว่า ดาวไถ
ซึ่งกลุ่มดาวไถนี้มีกลุ่มดาวนายพราน (กลุ่มดาวเต่า) ล้อมรอบ
โดยที่ดาวไถเป็นเข็มขัดของนายพรานนั่นเอง
3.กลุ่มดาวหมีใหญ่
กลุ่มดาวที่มนุษย์รู้จักดีที่สุด และใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดก็คือ
กลุ่มดาวหมีใหญ่หรือกลุ่มดาวจระเข้ เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวสำคัญ
ช่วยชี้หาดาวเหนือที่สว่างโดเด่นได้โดยไล่จากขาหน้าขวา ไปทางขาหน้าซ้าย
เลยออกไปอีกประมาณ 5 ช่วง กลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นกลุ่มดาวที่ี่มองเห็นได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกับดาวเหนือ
แต่ในทางกลับกันเนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในซีกฟ้าเหนือ
ผู้ที่อาศัยอยู่ทางซีกโลกใต้มากๆ จะเห็นได้ลำบาก เพราะตำแหน่งดาวบนทรงกลมท้องฟ้า
จะอยู่ใต้พื้นโลก
ดาวกลุ่มนี้มี 7 ดวง มีลักษณะคล้ายกระบวยตักน้ำ 4 ดวงเป็นตัวกระบวย อีก 3
ดวง เป็นด้าน ชาวจีนและชาวยุโรปเขาเห็นเป็นรูปกระบวย จึงเรียกกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า “กระบวยใหญ่”
(Big Dipper) ชาวกรีกซึ่งเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายอันเกี่ยวกับ
ดวงดาวต่าง ๆ เห็นเป็น “หมีใหญ่” (Ursa Major) คนไทยเห็นเป็น
“จระเข้” ทั้งกรีกและไทย
เห็นเหมือนกันอยู่ 1 อย่างคือ เห็นดาว 3 ดวง ทางด้ามกระบวยเป็นหางหมี
และหางจระเข้เหมือนกัน
4.กลุ่มดาวหมีเล็ก
กลุ่มดาวในดวงใจของนักเดินทาง
ตำนานแห่งการเดินทางจากอดีตสู่ปัจจุบัน ที่นอกเหนือจากเข็มทิศที่ใช้ในการนำทางแล้ว
ยังได้อาศัยดวงดาวเพื่อนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง Ursa Minor กลุ่มดาวหมีเล็ก
ซึ่งดาวที่เป็นส่วนหางของดาวหมีเล็กก็คือ "ดาวเหนือ" นั่นเอง
ซึ่งเป็นดาวที่มีประโยชน์มากสำหรับนักเดินเรือ ดาวที่ท้องของหมีเล็กทั้ง 4 ดวง
จะมีแสงสว่างขนาด 2,3,4 และ 5 แมกนิจูดตามลำดับ
ซึ่งเป็นประโยชน์ในการช่วยให้เราสามารถวัดขนาดความสว่าง ของดาวข้างเคียงได้
เราสามารถมองเห็นกลุ่มดาวหมีเล็กได้ในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น
5.กลุ่มดาวค้างคาว
กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย
เป็นกลุ่มดาวในซีกฟ้าเหนือ เป็นกลุ่มดาวที่สังเกตและจดจำได้ง่าย
เพราะประกอบด้วยดาวฤกษ์สว่าง 5 ดวง เรียงตัวกันเป็นรูปตัวเอ็ม (M) คนไทยจะเห็นเป็นรูปค้างคาว
จึงเรียกชื่อกลุ่มดาวนี้ว่า "กลุ่มดาวค้างคาว"
ส่วนชาวโบราณจะเห็นเป็นรูปเก้าอี้ ที่ราชินีแคสสิโอเปียทรงประทับอยู่
กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย จะเคลื่อนที่รอบดาวเหนือ (Polaris) โดยอยู่ห่างจากดาวเหนือ
ประมาณ 30 องศา และอยู่ทิศตรงข้ามกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) เสมอ
กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า
ประมาณเที่ยงคืนของกลางเดือนพฤศจิกายน
- Schedar, 2.23,
Yellow ดาวเชดดาร์ เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง ในระบบดาวคู่
มีความสว่างปรากฏเท่ากับ 2.23 ส่วนดาวคู่ มีความสว่างปรากฏเท่ากับ 8.9
อยู่ห่างจากโลกประมาณ 228 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "หน้าอก" (Breast)
- Caph, 2.3,
White ดาวชาฟ เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาว เป็นดาวแปรแสง
มีความสว่างปรากฏระหว่าง 2.25-2.31 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 54 ปีแสง
- Cih, 2.5,
Blue-white ดาวซิห์ เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน เป็นดาวแปรแสง
มีความสว่างปรากฏเท่ากับ 1.6-3.0 เป็นดาวคู่ โดยที่อีกดวง มีความสว่างปรากฏ ประมาณ
8.8 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 613 ปีแสง - Ruchbah, 2.7
ดาวรุคบาห์ มีความสว่างปรากฏเท่ากับ 2.7 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 99 ปีแสง
- Segin, 3.38 ดาวเซกิน
มีความสว่างปรากฏเท่ากับ 3.38 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 442 ปีแสง
6.กลุ่มดาวม้าปีก
ม้าปีก เป็นกลุ่มดาวที่สังเกตเห็นและจำได้ง่าย
เพราะมีดาวฤกษ์สุกสว่าง 4 ดวง ที่มีความสว่างใกล้เคียงกัน เรียงกันเป็นรูป 4
เหลี่ยมจตุรัส เรียกว่า "The Great Square" โดยดวงหนึ่งในสี่ดวง
เป็นดาวที่ต่อระหว่างกลุ่มดาวม้าปีก และกลุ่มดาวแอนโดรเมดา (Andromeda) นอกจากนี้
กลุ่มดาวม้าปีกยังใช้ในการหากลุ่มดาวอื่นๆได้ โดยจะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า
ประมาณเที่ยงคืนของเดือนกันยายน
7.กลุ่มดาวลูกไก่
กลุ่มดาวลูกไก่ หรือ
กลุ่มดาวไพลยาดีส หรือ ดาวพี่น้องทั้งเจ็ด
นับเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด และอาจเป็นกลุ่มดาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า
จึง เป็นกลุ่มดาวที่ใช้ทดสอบสายตาของคนได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าคนทั่วไปจะเห็นเพียง
6 ดวง แต่ถ้าผู้ชำนาญดูบ่อย ๆ นับดูจะได้ 7 ดวง
แต่ทว่าดาวกลุ่มนี้ตามความเป็นจริงไม่ได้มีแต่เพียง 7 ดวง แต่มีหลายร้อยดวงเป็น “กระจุกดาว”
ถ้ามีกล้อง 2 ตาหรือกล้องโทรทรรศน์ส่องดูดวงกลุ่มนี้ จะเห็นเป็น
กระจุกดาวที่สวยงามที่สุดในท้องฟ้ากลุ่มหนึ่ง
กระจุกดาวนี้ประกอบด้วยดาวฤกษ์สีน้ำเงินที่มีอายุราว 100 ล้านปี
แต่เดิมเคยเชื่อว่าเศษฝุ่นที่ทำให้เกิดการสะท้อนแสงจาง ๆ
เรืองรองรอบดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดน่าจะเป็นเศษที่หลงเหลือจากการก่อตัวของกระจุกดาว
(จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เนบิวลามายา ตามชื่อดาวมายา)
แต่ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเป็นเพียงฝุ่นเมฆในสสารระหว่างดาวที่ดาวฤกษ์กำลังเคลื่อนผ่านเท่านั้น
นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่ากระจุกดาวนี้จะมีอายุต่อไปอีกอย่างน้อย 250 ล้านปี
หลังจากนั้นก็จะกระจัดกระจายออกไปเนื่องจากปฏิกิริยาแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากดาราจักรเพื่อนบ้านใกล้เคียง
เรื่องเล่าในตำนานและวัฒนธรรมพื้นบ้าน
ที่มา http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=juo5_kKY4XI
ดาวลูกไก่ที่ประกอบไปด้วยดาวฤกษ์ทั้ง 7 ดวงนั้น ตามตำนานกรีกเล่าว่าดาวเหล่านี้เป็นตัวแทนของหญิงสาวเจ็ดพี่น้องแห่งไพลยาดีส
ในขณะที่ตำนานชาวไวกิงบอกว่าดาวเหล่านั้นคือแม่ไก่ทั้งเจ็ดตัวของเฟรย์ยา
ซึ่งคล้ายคลึงกับตำนานของไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น